Pairing : Jason Grace/Nico di angelo – [Jasico]
Fandom : The heroes of Olympus : The blood of Olympus
Rating : T
Author : Hankaoxing
****มีสปอยล์ของซีรีย์ The heroes of Olympus : The blood of Olympus ค่อนข้างมาก เพราะว่าบทสนทนาส่วนใหญ่จะยกมาจากตอนจบท้ายเล่ม มีการตัดทอนประโยคและรายละเอียดบางอย่างออก และมีการเพิ่มคำพูดหรือรายละเอียดปลีกย่อยเข้าไปแทนที่อีกนิดหน่อยเพื่อเพิ่มอรรถรส แต่ถึงอย่างนั้นมันก็ยังสปอยล์อยู่ดี ฟฟฟฟฟฟฟ****
****เนื้อหาเป็นชายรักชาย หากไม่มีเลือดวาย กรุณาไปซื้อมาให้เรียบร้อยก่อนนะคะ ฮา*****
[ย้ำ สปอยล์หนักมาก]
หลังจากสงครามค่ายฮาล์ฟบลัดและค่ายจูปิเตอร์ยุติลง.. เขาหมายถึง..นั่นล่ะ สงครามไกอา
นิโค เรย์นา และโค้ชเฮดจ์สามารถนำเอาอาธีน่าพาร์เธนอสไปถึงค่ายฮาล์ฟบลัดได้ทันเวลาก่อนที่พวกโรมันจะโจมตีค่ายภายใต้คำสั่งของอ็อกเทเวียน(ก่อนหน้านั้นเรย์นามักจะละเมอว่า เจ้าพอนทิเฟ็กส์แม็กซิมัสจอมปลอมนั่น! ทุกครั้งที่เธอหลับ)
ถึงแม้ว่าพวกเขาจะสามารถนำอาธีน่าพาร์เธนอสไปถึงค่ายได้ทันเวลา แต่พวกเขาก็ไม่สามารถหยุดยั้งการตื่นขึ้นมาของไกอาได้ มารดาแห่งสรรพสิ่งและพื้นพิภพก็ได้ลืมตาตื่นขึ้น
พวกเขาคงจะตายไปแล้วแน่ๆถ้าไม่ใช่เพราะลีโอ เจสัน และไพเพอร์
เจสันและไพเพอร์ปลอดภัยดี แต่ลีโอ..เขาสละตัวเองเพื่อช่วยสยบไกอา ปกป้องค่าย และรวมถึงพวกนิโคเอาไว้ .. ประวัติศาสตร์จะจดจำเขาในฐานะวีรบุรุษแห่งโอลิมปัสไปตลอดกาล
….แต่นิโคไม่คิดอย่างนั้น
ส่วนหนึ่งของเขาสามารถรับรู้ถึงความตายของลีโอ วัลเดซ บุตรแห่งเฮเฟตัสได้
แต่อีกส่วนหนึ่ง…เขากลับรู้สึกว่ามันมีอะไรที่แตกต่างออกไป
เขารู้สึกเหมือนว่าอีกเสี้ยวหนึ่งของลีโอยังอยู่ มันเป็นความรู้สึกที่เบาบางมาก แต่เขาก็รู้สึกถึงมันได้ มันเหมือนกับว่าลีโอยังไม่ตาย บางทีเขาอาจจะแค่ไปอยู่ในมิติอื่นหรือห้วงมนต์บังตาของเฮเซลก็ได้…ซึ่งเขาเองก็ไม่เข้าใจเหมือนกัน
แต่สถานการณ์ตอนนี้ต่างหากที่น่าปวดหัวกว่า
ด้วยความที่เมื่อคืนเขาแทบไม่ได้นอนเลยเพราะเอาแต่คิดเรื่องของลีโอ เรื่องของเพอร์ซีย์ และเรื่องที่ว่าหลังจากนี้เขาควรจะทำอะไรต่อไปดี
พอรู้ตัวอีกทีก็รุ่งสางซะแล้ว เขาเลยตัดสินใจได้ว่าอย่างน้อยเขาก็ควรที่จะงีบสักหน่อยก่อนที่พวกเฮเซลจะเดินทางกลับค่ายจูปิเตอร์ แต่เจสันก็ดันมาเคาะประตูหน้าบ้านของเขาและเรียกให้เขาออกไปคุยข้างนอกซะก่อน
….
….
โอยยยยย! หงุดหงิดโว้ยยย! ไอ้บุตรแห่งจูปิเตอร์บ้า! เรียกให้ออกมาคุยแต่ไม่เห็นจะพูดอะไรสักกะแอะ! คิดว่าเล่นสงครามประสาทอยู่รึไง!
แต่จะว่าไป…นี่เป็นครั้งแรกเลยแฮะที่เขาสามารถพินิจมองร่างสูงข้างๆเขาได้มากและนานขนาดนี้(ก็เพราะเจ้าพวกปีศาจทั้งหลายที่เอาแต่โผล่มาไม่รู้จักหยุดหย่อนนั่นแหละ! โผล่มาไม่รู้จักให้เขาและเพื่อนๆของเขาได้พักบ้างเลย มันเลยทำให้เขาไม่สามารถสนใจอะไรอื่นได้นอกจากการต่อสู้และภารกิจ)
นิโคเพ่งมองร่างสูง .. เขาดูเจิดจ้าชะมัดท่ามกลางแสงอาทิตย์ยามเช้าแบบนี้ แสงสีส้มจากดวงอาทิตย์ที่กำลังจะขึ้นขับให้ผิวเนียนขาวของเจสันดูเหมือนสีแทนน้ำผึ้งแบบพวกนักกีฬา(ซึ่งพอบวกกับร่างกายกำยำนั่นแล้ว.. อืม เขาดูเหมือนพร้อมที่จะวิ่งรอบโลกได้สักสามสิบรอบแล้ว)
ผมสีบลอนด์ของเจสันพริ้วไปตามสายลม รอยไถที่สีข้างจากการต่อสู้กับมหาโจรสไครอนนั่นยังอยู่(ซึ่งนิโคคิดว่ามันก็เข้ากับเจสันดี)
ดวงตาสีฟ้าหยั่งลึกนั่น..มันทำให้นิโคนึกถึงดวงตาสีมรกตของเพอร์..— ไม่สิ! เขาห้ามนึกถึงเพอร์ซีย์เด็ดขาดนะ! ก่อนหน้านี้เขาได้ตัดสินใจไปแล้วว่าจะตัดใจจากเพอร์ซีย์ เพราะฉะนั้นเขาต้องทำให้ได้! คิดเรื่องอื่นสินิโค อย่างเอ่อ…คุณสมบัติเด่นทั้งหมดของเจสันเทียบไม่ได้เลยกับของนิโค! โอ้ ใช่! อย่างเช่น เจสันมีร่างกายกำยำแต่นิโคกลับผอมบางเป็นผีกองกอย เจสันมีผิวสีสุขภาพดีแต่นิโคกลับขาวซีดเป็นศพ..
โดยภาพรวมแล้วเจสันถือว่าดูดีมากทีเดียวเมื่อเทียบกับนิโค.. กางเกงในฮาเดสช่วย การที่พวกเขามายืนข้างกันนี่มันถูกต้องแล้วเรอะ?!
“นี่ นิโค”
“เอ๊ะ เอ่อ..ว่าไง?” ให้ตายสิ ตกใจหมด! พอจะพูดก็พูดออกมาได้ง่ายๆเลยแฮะไอ้หมอนี่
“นายคิดว่ายังไงกับเรื่องของลีโอ?” อืม..ถามได้ตรงประเด็นดีมากเจสัน เกรซ… แล้วแบบนี้เขาควรจะตอบไปว่ายังไงดีล่ะเนี่ย?!
“…ลีโอตายแล้วเจสัน ฉันขอโทษ ฉันก็อยากจะให้คำตอบที่ดีกว่านี้กับนาย แต่..ฉันรู้สึกได้ถึงความตายของเขาเจสัน ฉัน..ฉันขอโทษจริงๆ” เหล่าเทพเจ้า เขาพูดออกไปแล้ว เขารู้ว่าเขาควรที่จะพูดอะไรที่ดีกว่านี้ แต่… เขาไม่สามารถโกหกเพื่อนของเขาได้ เขาไม่สามารถปล่อยให้เพื่อนของเขาฝันลมๆแล้งๆว่าลีโอจะต้องกลับมาได้ เขา..เขาทำไม่ได้
“เจสัน คือฉัน..—”
“เฮ้ นิโค มันไม่เป็นไร ฉันโอเค” ไม่ นิโครู้ว่าเขาต้องไม่โอเค
“แต่…—”
“นี่ ฟังนะ นั่นไม่ใช่ประเด็นเดียวที่ฉันมาหานายหรอกนะ” เจสันใส่ความหนักแน่นลงไปในน้ำเสียงของเขาเพื่อให้นิโคเลิกคิดมากสักที
“…งั้นอีกประเด็นคือ?” นิโคถามออกไป
“..ฉันจำได้ว่านายเคยบอกฉันอยู่ครั้งนึงว่าหลังจากจบเรื่องทั้งหมดนายจะไม่อยู่ทั้งค่ายฮาล์ฟบลัดและค่ายจูปิเตอร์ นายเลือกที่จะขอหายไปตลอดกาล คือ ฉันรู้ว่าฉันไม่อาจเปลี่ยนใจนายได้ แต่เฮ้..ฟังนะ ฉันจะรอนายอยู่ที่ค่ายนี้ คือจริงๆฉันต้องเดินทางไปกลับทั้ง2ค่ายเพราะต้องคอยดูแลเรื่องการสร้างศาลบูชาให้เหล่าเทพองค์เล็กทุกองค์ แต่ถ้านายอยากจะมา นายสามารถมาได้ทุกเวลาเลยนะ ฉันจะมารอรับนายที่นี่ เราจะยิ้มให้กันแล้วฉันก็จะทักนายว่าไง เพื่อน แล้วจากนั้น…—”
“เฮ้ เพื่อน ใจเย็นก่อน” นิโคทำมือเป็นสัญลักษณ์การขอเวลานอก
“คือฉันดีใจนะที่นายอุตส่าห์ทุ่มเทให้ฉันขนาดนี้น่ะ แต่…”
“….”
“….ฉันว่าฉันคงจะอยู่ที่ค่ายฮาล์ฟบลัดนี่แหละ”
“…….ห้ะ”
“คือ ไครอนมาคุยกับฉันว่าบ้านหมายเลขที่13 อืม..บ้านของบุตรธิดาแห่งฮาเดสอย่างฉันน่ะ ยังขาดที่ปรึกษาประจำบ้าน และด้วยความที่เหลือแค่ฉันคนเดียวเพราะเฮเซลจะไปประจำที่ค่ายจูปิเตอร์…ฉันก็เลยได้เป็นที่ปรึกษาบ้านนี้ไปโดยปริยายล่ะนะ” นิโคยักไหล่
“โอ้ นั่น..นั่นมันวิเศษไปเลยเพื่อน! และด้วยความที่ฉันก็เป็นคนเดียวที่อยู่ที่บ้านหมายเลข1ด้วยเช่นกัน เพราะฉะนั้น เวลากินข้าวเราก็จะมากินด้วยกัน เวลาแข่งชิงธงเราก็จะอยู่ทีมเดียวกัน เวลาฝึกซ้อมเราก็จะซ้อมด้วยกัน เวลา…—”
“เฮ้ เพื่อน พอก่อน นายยังมีเพื่อนอีกตั้งเยอะ ไม่เห็นจำเป็นต้องไปกับฉันเลยนี่”
“นายก็เป็นเพื่อนของฉันเหมือนกันนะ! เพื่อนสนิทด้วย! ฉันก็ต้องมากับนายอยู่แล้ว!” เจสันยิ้ม แสงสีส้มจากดวงอาทิตย์ยามเช้าทำให้รอยยิ้มนั่นดูเจิดจรัสขึ้น
“…เพื่อนสนิท? ฉัน…เนี่ยนะ?” นิโคกำลังพยายามประมวลผลกับคำพูดนั้นอยู่ คิ้วของเขาเริ่มขมวดกันเป็นปมซึ่งเจสันก็คิดว่ามันน่ารักดี… เดี๋ยวนะ นี่เขากำลังคิดอะไรอยู่เนี่ย?!
“ก็ใช่น่ะสิ! เราผ่านอะไรมาด้วยกันตั้งเยอะนี่นา นายก็ต้องเป็นเพื่อนสนิทของฉันอยู่แล้ว!” เขากะจะโน้มตัวเข้าไปกอดร่างเล็กเบื้องหน้าเพื่อแสดงถึงความจริงใจของเขา แต่เสียงของร่างเล็กก็ทำให้เขาต้องชะงักซะก่อน
“จ..เจสัน?”
“เอ่อ…นั่นสินะ ลืมไปเลย ไม่ชอบให้ใครแตะเนื้อต้องตัวสินะ ขอโทษที เข้าใจแล้ว” เขาผละออกมาจากนิโค
“….ครั้งนี้จะยกเว้นไปก่อนก็ได้นะ”
“…อะไรนะ”
เจสันสังเกตได้ว่าแก้มของร่างเล็กตรงหน้าเริ่มที่จะขึ้นสีซะแล้ว..
“ค..ครั้งนี้จะยกเว้นไปก่อนก็ได้นะ!” นิโคพยายามพูดให้ดังขึ้น
เจสันนึกสนุก
“เห~ อะไรนะนิโค~ ฉันไม่ได้ยินที่นายพูดเลย~” ร่างสูงเอามือป้องหูแล้วชะโงกเข้ามาใกล้นิโคเหมือนพยายามที่จะจับใจความของนิโคให้ได้มากที่สุด
น่าหงุดหงิดชะมัด..
“ฉันบอกว่า..—!”
“อะไรนะ~?”
“ฉัน..—”
“เห~?”
หนอย ไอ่บ้านี่!!
“ฉันบอกว่านายจะกอดฉันก็ได้นะ เจ้าบ้า!!!” นิโคกระชากคอเสื้อของร่างสูงลงมาสุดแรง แต่แรงทั้งหมดของนิโคก็ทำให้ร่างสูงเซแค่เล็กน้อยเท่านั้น
เจสันสังเกตได้ว่าหน้าของพวกเขาห่างกันไม่ถึงเซนด้วยซ้ำ… แต่ดูเหมือนร่างเล็กจะยังไม่รู้ตัวล่ะนะ
“อะไร!” ..ดูเหมือนว่าเขาจะจ้องนานไปแฮะ
“เปล่าซักหน่อย ก็แค่…”
“แค่อะไร?!”
“……..นายตอนโกรธนี่น่ารักดีนะ”
“พ..พูดบ้าอะไรของนาย?!!” นิโคปล่อยมือจากคอเสื้อของเขาแล้วผลักเขาเต็มแรง
ให้ตายสิ หน้าแดงเป็นลูกมะเขือเทศเลยแฮะไอ้หมอนี่.. แต่จะมีหรือที่บุตรแห่งจูปิเตอร์และอดีตแม่ทัพแห่งค่ายจักรวรรดิโรมันภาคที่12อย่างเขาจะถูกผลักออกไปได้ง่ายๆเพราะแรงแค่นี้น่ะ
“ฮะฮะ แรงแค่นี้ไม่สะทกสะท้านฉันหรอกน่า” เจสันรวบกอดนิโคไว้ตามคำขอ คางของเขาซบลงบนบ่าของนิโค .. ไอ่ร่างเล็กนี่มันผอมกว่าที่เขาคาดไว้ซะอีกแฮะ.. ก็นะ ก็ไอ่หมอนี่มันเอาแต่กินผลทับทิมแค่ผลสองผลเองนี่นา
“นี่นายน่ะ นายไม่คิดว่านายจะผอมไปหน่อยเรอะ?” เจสันทักขึ้นมาขณะที่คางยังคงทาบอยู่กับไหล่ของนิโค
“หา? ฉันไม่ได้ผอมขนาดนั้นสักหน่อยน่า”
“อ้อเหรอ แล้วไอ่หุ่นอ้อนแอ้นอย่างกับผู้หญิงแบบนี้กับหนังที่แทบจะติดกระดูกอยู่แล้วนี่มันคืออะไรกันหา?” ร่างสูงหยิกเข้าที่เอวของนิโคเบาๆ .. นี่มือของหมอนั่นมันไปอยู่ตรงนั้นตั้งแต่เมื่อไหร่กันฟะเนี่ย?!
“เฮ้ย! ทำบ้าอะไรของนายเนี่ย?!” นิโคพยายามผลักเจสันออกอีกครั้ง
“ฮ่าฮ่า ฉันบอกแล้วไง แรงแค่นี้ทำอะไรฉันไม่ได้หรอกนะ~” เจสันย้ายมือของเขาให้กลับมารวบกอดร่างเล็กไว้เหมือนเดิม
“นานๆทีนายจะน่ารักยอมให้กอดแบบนี้ ก็ต้องกอดนานๆให้คุ้มใช่ไหมล่ะ”
“ไอ่บ้า!! ฉันบอกแล้วไงว่าฉันไม่ได้น่า..—” แต่ก่อนที่นิโคจะได้พูดอะไร ร่างสูงตรงหน้าก็ดันทักขึ้นมาซะก่อน
“นี่ นิโค”
“……อะไรอีก”
“…นายช่วยกอดฉันกลับด้วยสิ” ..กล้าพูดออกมาได้นะไอ่หมอนี่!
“บ้ารึไง?! ทำไมฉันต้อง..—”
“น่าา…ฉันกอดนายอยู่ฝ่ายเดียวแบบนี้ฉันก็ดูเฟลแย่สิ”
“ก็เรื่องของนายสิ!”
“…..นิโค” เจสันกอดนิโคแน่นขึ้นเหมือนกับเด็กน้อยที่กำลังกอดตุ๊กตาหมี… แล้วทำไมต้องเป็นตุ๊กตาหมีฟะ?!
..
เฮ้อ
..
เขายอมแพ้
..
“….. เจสัน”
นิโคเอามือรวบแผ่นหลังกว้างของเจสันบ้าง
..
“หืม?”
นิโครู้สึกได้ถึงไออุ่นจากร่างสูงที่แผ่ซ่านไปทั่วตัวของเขา
..
..ให้ตายสิ..
..
“หุบปากไป”
..
หายไปเป็นอาทิตย์ กลับมาแล้วค่ะ ฮ่า
คือ ตอนนี้กำลังมีปัญหากับคาแรคเตอร์ของเจสันมากค่ะ คือคาแรคเตอร์ของเจสันในหนังสือนี่คือเป็นคนที่แบบ มุ่งมั่น จริงจัง มีความเป็นผู้นำ อะไรอย่างงี้ แต่พอแต่งฟิคออกมาทีไร เจสันกลายเป็นหนุ่มมุ้งมิ้งตลกโปกฮาไปเลยค่ะ ๕๕๕๕๕๕๕๕๕๕๕๕ /ในเลขห้ามีน้ำตาซ่อนอยู่
เพราะงั้น ใครรับไม่ได้กับคาแรคเตอร์ของเจสันก็ขออภัยด้วยค่ะ เราก็เครียดเหมือนกัน ;-;
คือตอนอ่านหนังสือแล้วเจอฉากที่สองคนนี้คุยกันน่ะค่ะ คือกรี๊ดหนักมาก ๕๕๕๕๕๕๕๕๕๕๕๕๕๕๕๕๕
ไม่ใช่อะไร คือนิโคถามเจสันว่า ถ้าจะคุยกับเฮเซลล่ะก็ เธออยู่ข้างในน่ะ แต่เจสันกลับบอกว่า ไม่ล่ะ ฉันมาที่นี่เพื่อมาคุยกับนาย อื้อหือออ๕๕๕๕๕๕๕๕๕๕๕๕๕๕ แถมยังมีอยู่ฉากนึงที่บรรยายประมาณว่า แว่นของเจสันเบี้ยวและนิโคพยายามอย่างมากที่จะไม่เอื้อมมือขึ้นไปจัดแว่นให้เจสัน คืออะไรรรรร แงงงงงง แล้วจากนั้นสองคนนี้ก็กอดกันค่ะ โดยจากในฟิคที่นิโคบอกว่า จะยกเว้นไปก่อนก็ได้นะ คืออันนี้มาจากออฟฟิเชียลเลยค่ะ ในนิยายนางพูดแบบนี้จริงๆ ๕๕๕๕๕๕๕๕๕๕๕๕๕๕๕๕๕๕๕๕๕๕๕๕๕๕๕๕๕๕๕๕๕๕๕๕๕๕๕๕๕๕๕๕๕๕๕
เห้อ คุณริคหนอ เซอร์วิสกะจะให้แม่ยกตายกันไปข้างเลยใช่มั้ยคะ
มีข้อติชมอะไรก็เมนท์ได้นะคะ หรือไม่มีข้อติชมก็เมนท์ได้เหมือนกันค่ะ ฮาา
Ps.ทำไมมันเว้นบรรทัดไม่ได้๕๕๕ /เอาตีนก่ายหน้าผาก
Ps2.คือแรงบันดาลใจส่วนนึงได้มาจากรูปนี้ในทัมป์ค่ะ (จริงๆในรูปเป็นเพอร์ซิโคค่ะ แต่เห็นเพอร์ซีย์กับหนูแอนนาเบ็ธดูแฮปปี้กันมากตั้งแต่ต้นจนจบ เลยไม่อยากจะไปรบกวนน่ะค่ะ มันรู้สึกผิดแปลกๆ๕๕๕ ก็เลยกลายเป็นเจสิโคไปโดยปริยาย ฮา)
จากนักวาดคนนี้ค่ะ(ทั้งรูปปกฟิคทั้งอินสไปเรชั่นเลยนะคะ๕๕) http://minuiko.tumblr.com/
ยังไงก็ ขอบคุณที่แวะเข้ามาอ่านกันนะคะ ❤